Home » กิจกรรมสภาวิชาชีพข่าวฯ

แถลงการณ์ เรื่อง สถานภาพของสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย

Author by 19/08/11No Comments »

ตามที่ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงข่าวและให้สัมภาษณ์ต่อสาธารณชนว่า สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ไม่มีสถานภาพเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย จึงไม่มีสิทธิเข้าร่วมเป็นกรรมการสรรหาคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และรองประธานสภาวิชาชีพข่าวฯ ถูกอุปโลกน์กันเข้ามาร่วมประชุมคณะกรรมการสรรหา กสทช. ครั้งที่ ๑ เมื่อวันที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๕๔ โดยยังมิได้ดำรงตำแหน่งประธานสภาวิชาชีพข่าวฯ จึงเป็นการกระทำที่ส่งผลให้องค์ประกอบของคณะกรรมการสรรหาฯ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย นั้น

          สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยขอแจ้งให้ทราบว่าแถลงการณ์ดังกล่าวมีความคลาดเคลื่อนต่อข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย กล่าวคือ สภาวิชาชีพข่าวฯ ก่อตั้งขึ้นโดยการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันของผู้ประกอบวิชาชีพข่าววิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ เมื่อวันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๕๒ โดยมีวัตถุประสงค์เป็นองค์กรอิสระทำหน้าที่ควบคุมกันเองในหมู่ผู้ประกอบวิชาชีพ เพื่อส่งเสริมเสรีภาพ ความรับผิดชอบ ยกระดับผู้ประกอบวิชาชีพ และส่งเสริมสนับสนุนสิทธิในการรับรู้ข่าวสารของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๔๖ และ ๖๔ ประกอบกับพระราชบัญญัติการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พุทธศักราช ๒๕๕๑ มาตรา ๓๙ ซึ่งได้รับรองเสรีภาพในการรวมตัวกันเป็นองค์กรอันเป็นสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย อีกทั้งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์  และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ มาตรา ๑๔ กำหนดให้ประธานสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยเป็นหนึ่งในคณะกรรมการสรรหาฯ  สภาวิชาชีพข่าวฯ จึงเป็นองค์กรที่ถูกต้องและได้รับการยอมรับตามกฎหมายแล้ว จึงไม่มีประเด็นที่จะต้องพิจารณาว่าสภาวิชาชีพฯ มีสถานภาพเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายหรือไม่

          ส่วนกรณีที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ ระบุว่ารองประธานสภาวิชาชีพข่าวฯ ได้เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการสรรหา กสทช. โดยยังมิได้ดำรงตำแหน่งประธานสภาวิชาชีพข่าวฯ จึงเป็นการกระทำที่ส่งผลให้องค์ประกอบของคณะกรรมการสรรหาฯ ไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น สภาวิชาชีพข่าวฯ ขอแถลงให้ทราบทั่วกันว่า ในขณะนั้นเนื่องจากประธานสภาวิชาชีพข่าวฯ ได้ลาออก ดังนั้น นางสาวสุวรรณา สมบัติรักษาสุข รองประธานสภาวิชาชีพข่าวฯ คนที่ ๑ จึงทำหน้าที่ประธานสภาวิชาชีพข่าวฯ ในการประชุม ครั้งที่ ๑ เมื่อวันที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๕๔ โดยชอบตามธรรมนูญสภาวิชาชีพข่าวฯ และตามมติของคณะกรรมการสภาวิชาชีพข่าวฯ ซึ่งต่อมาก่อนการประชุมคณะกรรมการสภาวิชาชีพข่าวฯ เมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ คณะกรรมการสภาวิชาชีพข่าวฯ ได้มีมติแต่งตั้งนางสาวสุวรรณา สมบัติรักษาสุข เป็นประธานสภาวิชาชีพข่าวฯ และได้เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการสรรหาฯ จนเสร็จสิ้นกระบวนการ การปฏิบัติหน้าที่ของรองประธานสภาวิชาชีพข่าวฯ จึงไม่เป็นการอุปโลกน์ตามที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อไว้แต่อย่างใด

          อนึ่ง สภาวิชาชีพข่าวฯ  มีความห่วงใยว่าอาจมีขบวนการที่ต้องการให้กระบวนการสรรหา กสทช. สะดุดหยุดลงจนเป็นเหตุให้ คณะรัฐมนตรีใช้อำนาจเลือก กสทช. ตาม พรบ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. ๒๕๕๓ เหมือนเช่นที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับกระบวนการสรรหา กสช. ตามพรบ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. ๒๕๔๓ ซึ่งเป็นระยะเวลากว่า ๑๓ ปี สภาวิชาชีพข่าวฯ จึงขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เป็นไปตามกระบวนการและขั้นตอนและอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายต่อไป

สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย  ประกอบด้วยองค์กรสมาชิก ดังต่อไปนี้

สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3

สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก

บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)

สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย

สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส

บริษัท  เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน)

สถานีข่าว TNN บริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด(มหาชน)

บริษัท สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น จำกัด

บริษัท สำนักข่าวทีนิวส์ จำกัด

สถานีวิทยุแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

บริษัท มีเดียออฟมีเดียส์ จำกัด(มหาชน)

บริษัท สยามอินเตอร์ มัลติมีเดีย จำกัด

สถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี

บริษัท มหาชัย เคเบิล ทีวี จำกัด

บริษัท เจริญเคเบิล ทีวี จำกัด

สถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์

 

๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๔